ทำฟันเด็ก

การดูแลสุขภาพฟันเด็ก

ทำฟันเด็ก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทันตแพทย์คนไหนๆ ก็จะทำได้แบบราบรื่น เพราะนอกจากจะต้องมีความรู้ความสามารถด้านทันตกรรมแล้ว ยังต้องมีความสามารถในการทำให้เด็กยอมที่จะทำฟันได้อีกด้วย จึงไม่แปลกที่การดูแลสุขภาพฟันเด็ก จะเป็นความรู้เฉพาะทาง

 

ทำฟันเด็กทำไมต้องเป็นทันตแพทย์เฉพาะทาง

  1. ประสบการณ์ตรวจฟันหรือทำฟัน เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของเด็กซึ่งมักจะมีความกลัว ทำให้ยากต่อการตรวจ ดูแล ทันตแพทย์จึงต้องมีจิตวิทยาในการทำให้เด็กไม่กลัว ไม่ต่อต้านขัดขืน และสร้างประสบการณ์ในด้านดีเกี่ยวกับการตรวจฟัน ดูแลฟันให้กับเด็ก ดังนั้น ทันตแพทย์ที่จะรับหน้าที่นี้จึงต้องมีการศึกษา เรียนรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาดูแลรักษาเด็ก นอกเหนือจากความรู้ด้านทันตกรรม
  2. ฟันของเด็กต้องเริ่มต้นดูแลตั้งแต่ยังเป็นฟันน้ำนมซี่แรก ทันตแพทย์ด้านนี้จึงต้องมีความรู้เฉพาะทางเรื่องขากรรไกรเด็กด้วย ฟันน้ำนมที่ได้รับการดูแลดี ถูกต้อง จะส่งผลให้เด็กคนนั้นเติบโตไปอย่างคนที่มีฟันแท้สวยตามไปด้วย

 

เด็กควรเริ่มดูแลสุขภาพฟันตั้งแต่เมื่อไร

แม้ว่าเด็กๆ จะมีฟันน้ำนมที่จะหลุดไปตามเวลาก็จริง แต่การดูแลฟันน้ำนมก็มีความสำคัญ เพราะเป็นเบื้องต้นนำไปสู่สุขภาพฟันแท้ที่สมบูรณ์ แข็งแรง สวยงาม ดังนั้น พ่อแม่จึงควรใส่ใจดูแลเรื่องความสะอาดในภายช่องปากตั้งแต่ฟันยังไม่ขึ้น ส่วนเมื่อฟันน้ำนมขึ้นแล้ว ควรเริ่มต้นปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลรักษา แปรงฟัน และป้องกันฟันผุ รวมถึงปัญหาอื่นๆ เกี่ยวกับฟันของลูกน้อย ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ฟันซี่แรกเมื่ออายุ 6-8 เดือนเลยทีเดียว

 

ทันตแพทย์ดูแลสุขภาพฟันเด็กดูแลเรื่องอะไรบ้าง

  1. ตรวจดูสภาพทั่วไปภายในปาก เหงือก ลิ้น ฯ การขึ้นของฟันน้ำนมว่าขึ้นในลักษณะปกติหรือไม่
  2. ประเมินคุณภาพของฟันเด็กว่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะผุได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อป้องกันต่อไป
  3. แนะนำพ่อแม่เรื่องการดูแลสุขภาพปากและฟันให้เด็ก เพื่อรักษาความสะอาด ป้องกันไม่ให้เกิดฟันผุ หรือมีปัญหาภายในปาก ซึ่งเด็กๆ อาจมีอาการร้อนในจนเกิดแผลภายในปากได้บ่อยๆ และเด็กเล็กไม่สามารถบอกอาการได้
  4. ตรวจสุขภาพฟันเด็กทุก 6 เดือน เหมือนผู้ใหญ่ เพื่อรักษาได้ทันท่วงที ไม่มีอาการหนักขึ้น
  5. เด็กๆ กับขนมหวานเป็นของคู่กัน ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดอาการฟันผุจึงเป็นไปได้ง่าย ดังนั้น ทันตแพทย์จึงมักแนะนำให้มีการเคลือบฟลูออไรด์ให้ฟัน ซึ่งมักอยู่ในรูปของเจล
  6. เมื่อเกิดฟันผุ ก็จะทำการอุดฟัน ซึ่งการอุดฟันนี่เอง ทันตแพทย์เด็กจะต้องใช้จิตวิทยาในการทำให้เด็กไม่กลัวจนเกินกว่าเหตุ หรือไม่กลัวจนฝังใจกลายเป็นกลัวหมอฟันจนถึงตอนโต ซึ่งเรื่องนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากพ่อแม่ช่วยสร้างความมั่นใจ ไม่หลอกให้เด็กมีความกลัว หรือมีทัศนคติที่ไม่ดีกับการหาหมอฟัน
  7. ถอนฟันเด็ก เมื่อถึงวัยที่เด็กจะเปลี่ยนจากฟันน้ำนมเป็นฟันแท้ จะเริ่มมีฟันโยก ทันตแพทย์จะช่วยถอนให้ตามเวลาสมควร เพื่อช่วยให้ฟันแท้ขึ้นมาอย่างสวยงาม ไม่มีการเบียดกับฟันน้ำนมในบางกรณีจนทำให้ฟันขึ้นมาในตำแหน่งที่ไม่สวย ฟันเก ฟันซ้อนในอนาคต กับอีกกรณีหนึ่งที่อาจต้องถอนฟันก็คือ เด็กที่มีฟันผุมากๆ จนอาจมีผลต่อเนื่องทำให้อักเสบถึงรากฟัน การถอนฟันอาจเป็นทางที่ทันตแพทย์เลือก
  8. ขูดหินปูน ทันตแพทย์เด็กจะดูแลตั้งแต่ฟันน้ำนมขึ้นซี่แรก จนถึงฟันแท้ ดังนั้น การขูดหินปูนจึงเกิดขึ้นในระหว่างนั้น ไม่ต่างจากผู้ใหญ่
  9. การทำครอบฟัน สามารถทำได้ตั้งแต่เป็นฟันน้ำนม เพื่อรักษาฟันไว้ใช้งานก่อนที่ฟันแท้จะขึ้น

 

สิ่งที่เด็กควรเรียนรู้เพื่อดูแลสุขภาพฟันของตัวเอง

เมื่อเด็กเริ่มรู้ประสา ต้องมีการสอนให้ดูแลสุขภาพฟันของตัวเองตามสมควร คือ

  1. ฝึกแปรงฟันอย่างถูกวิธี และแปรงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องเรียนรู้ในการสร้างทัศนคติที่ดีต่อการแปรงฟันตั้งแต่เด็กยังเล็ก จะได้ชอบการแปรงฟันและพร้อมที่จะดูแลตัวเองในตอนโต
  2. บ้วนปากหรือแปรงฟัน รวมถึงใช้ไหมขัดฟันควบคู่ไปกับการทำความสะอาด แรกๆ พ่อแม่ทำให้ก่อนให้เคยชิน และให้เด็กทำเองในช่วง 8 ขวบหรือเด็กกว่านั้นตามสมควร
  3. การรับประทานของหวาน ลูกอม หรืออื่นๆ ที่อาจส่งผลให้ฟันผุเร็วขึ้น ต้องแนะนำให้รู้ถึงภัยเหล่านั้น จะได้ควบคุมตัวเองได้ ให้เด็กได้เรียนรู้ถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นหากมองข้ามเรื่องเหล่านั้น เพราะถึงจะสอนให้มีทัศนคติที่ดีต่อการหาหมอฟันก็ตาม ความเจ็บปวดที่เกิดจากฟันผุ หรือรักษาฟัน ไม่ใช่เรื่องที่เด็กต้องการเจออยู่แล้ว
  4. เมื่อมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับปากและฟัน ต้องให้เด็กบอกเพื่อที่จะได้รักษาได้ทันการณ์ โดยให้เรียนรู้ว่า ในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง เช่น ฟันน้ำนมจะโยกและหลุดแล้วจะมีฟันแท้ ซึ่งเด็กต้องรักษาฟันน้ำนมให้อยู่ในสภาพดีจนถึงเวลามีฟันแท้ขึ้นมาแทน ไม่ต้องถอนฟันทิ้งก่อนหน้านั้น เป็นต้น

เด็กๆ ที่ได้รับความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพฟันที่ถูกต้อง และได้รับการเอาใจใส่เรื่องนี้อย่างดีจากพ่อแม่ มีทันตแพทย์เด็กที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางช่วยดูแลตามวัย จะเติบโตขึ้นอย่างมีสุขภาพฟันที่ดีและสวยงาม เพราะมันจะไม่ดีแน่ถ้าฟันน้ำนมหลุดก่อนวัยอันควร

 

 

ย้อนกลับด้านบน